บริบท ของ ต้นฉบับทางเศรษฐศาสตร์และปรัชญาจากปี 1844

ต้นฉบับฯ ถูกเขียนขึ้นในฤดูร้อน ค.ศ. 1844[3] ขณะมาคส์อายุ 25 หรือ 26 ปี[4] มาคส์ในขณะนั้นอาศัยอยู่ที่ปารีส เมืองศูนย์กลางทางความคิดของสังคมนิยมในยุคสมัยนั้น สมาชิกหลายคนในกลุ่มปรัชญาที่เขาอยู่ด้วย กล่าวคือกลุ่มนิยมเฮเกิลรุ่นใหม่ (Young Hegelians) ได้ย้ายมาอยู่ที่ปารีสเมื่อปีก่อนเพื่อก่อตั้งวารสารฉบับหนึ่ง นามว่าด็อยทช์-ฟรันท์เซอซิชเชอ ยาร์บือเชอร์ (Deutsch–Französische Jahrbücher) ("หนังสือรายปีเยอรมัน-ฝรั่งเศส")[5] มาคส์อาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 38 ถนนรูว์ วาโน (Rue Vaneau) ที่ฝั่งซ้าย (Rive Gauche) ของเมืองในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1843[6] ที่ปารีส เขาได้พบกับช่างฝีมือปฏิวัติชาวเยอรมัน (artisan) และเข้าร่วมประชุมลับของสมาคมกรรมาชีพในฝรั่งเศส[7] ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ มาคส์ได้รู้จักกับปีแยร์-โฌแซ็ฟ พรูดง (Pierre-Joseph Proudhon), หลุยส์ บล็อง (Louis Blanc), ไฮน์ริช ไฮเนอ (Heinrich Heine), เกออร์ค แฮร์เวค (Georg Herwegh), มีฮาอิล บาคูนิน, ปีแยร์ เลอรู (Pierre Leroux) และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฟรีดริช เอ็งเงิลส์[8]

ต้นฉบับฯ พัฒนามาจากข้อเสนอของมาคส์ในหนังสือรายปีว่าจะเขียนจุลสารแยกต่างหากเพื่อวิจารณ์แนวคิดต่าง ๆ ในนิติปรัชญาของเกออร์ค วิลเฮ็ล์ม ฟรีดริช เฮเกิล กล่าวคือกฎหมาย จริยธรรม การเมือง ฯลฯ และจบด้วยศาสตรนิพนธ์ทั่วไปที่จะแสดงถึงความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกันระหว่างพวกมัน[3] บันทึกเหล่านั้นเป็นงานเขียนที่กระจัดกระจายไม่ครบถ้วน ซึ่งมีตั้งแต่ข้อความคัดลอกจากหนังสือต่าง ๆ และข้อคิดเห็น บันทึกและข้อความไตร่ตรองถึงหัวข้อต่าง ๆ ที่เชื่อมต่อกันอย่างหลวม ๆ จนถึงงานเขียนประเมินปรัชญาของเฮเกิลอย่างเบ็ดเสร็จ[9] งานชิ้นนี้เป็นที่รู้จักมากที่สุดจากการแสดงการให้เหตุผลของมาคส์ที่กล่าวว่าสภาวะของสังคมอุตสาหกรรมสมัยใหม่ส่งผลให้เกิดความแปลกแยก (Marx's theory of alienation) ของคนงานรับจ้างจากผลผลิตของตน จากงานของตน และเหตุนั้น จากตนเองและจากผู้อื่น[10]

งานเขียนชิ้นนี้เป็นการปรากฏตัวด้วยกันครั้งแรกของสิ่งที่เอ็งเงิลส์กล่าวว่าเป็นองค์ประกอบสามประการในแนวคิดของมาคส์: ปรัชญาจิตนิยมเยอรมัน (German idealism) สังคมนิยมฝรั่งเศส และเศรษฐศาสตร์อังกฤษ[11] นอกจากเฮเกิลแล้ว มาคส์ยังได้กล่าวถึงงานของนักเขียนสังคมนิยมหลายคน และงานของบรรดาบิดาแห่งเศรษฐศาสตร์การเมือง: ฟร็องซัว แกแน (Francois Quesnay), อดัม สมิธ, เดวิด ริคาร์โด (David Ricardo), ฌ็อง-บาติสต์ แซ (Jean-Baptiste Say) และเจมส์ มิลล์ (James Mill)[12] อีกแหล่งสำคัญคือ Die Bewegung der Produktion ของฟรีดริช วิลเฮ็ล์ม ชุลทซ์ (Friedrich Wilhelm Schulz)[13][14] แนวคิดมนุษยนิยมของลูทวิช ฟ็อยเออร์บัค เป็นหนึ่งในอิทธิพลซึ่งเป็นฐานค้ำยันของบันทึกทั้งหมดของมาคส์[15]

เพราะงานเขียนต้นฉบับฯ แสดงถึงแนวคิดของมาคส์เมื่อแรกเริ่ม การตีพิมพ์ออกมาในคริสต์ศตวรรษที่ 20 ได้ส่งผลอย่างมากต่องานวิเคราะห์เกี่ยวกับมาคส์และลัทธิมากซ์[1] ในช่วงที่ตีพิมพ์ออกมาเป็นครั้งแรก ลักษณะที่โดดเด่นที่สุดคือความแตกต่างจากปรัชญาวัตถุนิยมวิภาษวิธี (dialectical materialism) ทางการของสหภาพโซเวียตกับพรรคคอมมิวนิสต์ในยุโรป[4] ต้นฉบับฯ เป็นงานวิเคราะห์เฮเกิลที่แหลมคมที่ยากและซับซ้อนกว่าของเอ็งเงิลส์ ซึ่งกล่าวถึงเรื่องอย่างเช่นความแปลกแยก ซึ่งไม่มีอยู่ในงานของเอ็งเงิลส์ เปลฮานอฟ (Georgi Plekhanov) หรือเลนิน[16]

แหล่งที่มา

WikiPedia: ต้นฉบับทางเศรษฐศาสตร์และปรัชญาจากปี 1844 http://www.marxists.org/archive/marx/works/1844/ma... //openlibrary.org/books/OL20663426M //openlibrary.org/books/OL5548413M //openlibrary.org/books/OL7910951M http://www.zeno.org/Philosophie/M/Marx,+Karl/%C3%9... https://www.jacobinmag.com/2018/05/marx-humanism-e... https://www.radicalphilosophy.com/article/hegel-fe... https://www.radicalphilosophy.com/article/objectif... https://chrisarthur.net/dialectics-of-labour-marx-... https://chrisarthur.net/dialectics-of-labour-marx-...